ประเทศไ ท ยนับว่าเป็นเมืองที่มีโชค ที่ทุกวันนี้เรามีโอ กาสได้เห็นสมณะออ ก เดินบิณฑบาตในย ามเช้าแทบทุกตรอ กซอ กซอย
โดยไม่ต้องลำบากลำบนดิ้นรนหาพระสงฆ์เพื่อใส่บาตรเหมือนกับประเทศอินเดีย-เนปาล
ที่เคยเป็นถึงต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา ไม่ต้อง กระเ สื อ ก กระสนดั้นด้นบินลัดฟ้ามาเพื่อชม
ความงามของประเพณีการบิณฑบาตอย่ างพวกฝรั่งมังค่า แต่ด้วยความที่ในปัจจุบันสังคมมีการแข่งขัน และเร่งรีบมากขึ้น
จึงทำให้ชาวพุทธเราเองกลับยิ่งออ กห่างจากประเพณี อันดีงามอย่ างการตักบาตรพระในย ามเช้า
วันนี้เราจะมาดูคุณประโยชน์ของการใส่บาตร ในตอนเช้ามีมากมายหลายประการด้วยกัน คือ
1 เป็นที่รักของผู้คนทั้งหลาย
คนดีมีปัญญาย่อมชอบคบค้าสมาคมด้วย มีชื่อเสี ยงที่ดีงาม เป็นผู้ไม่ห่างไกลธรรม และ เมื่อจากโลกนี้ไปแล้วย่อมเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์
2 การใส่บาตรทุกวัน ทำให้จิตใจเกาะอยู่กับความดี
เป็นการฝึกจิตให้คลุกเคล้าอยู่กับกุศล ซึ่งเป็นทางแห่งความเจริญ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรับรองว่า
“ผู้ฝึกจิตดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้” เพราะเมื่อตื่นขึ้น มา สิ่งแรกที่จะนึกถึงคือจะหาอะไรใส่บาตรดี
ซึ่งจุดนี้ก็เรียกว่าเป็นสังฆานุสติ เพราะนึกถึงพระสงฆ์ และจาคานุสติ เพราะนึกถึงสิ่งที่จะนำใส่บาตรพระ ถือเป็นบุญการเจริญพระก ร ร มฐานถึง 2 กองด้วยกัน
3 เป็นการลดความตระหนี่ บรรเทาความเห็นแก่ตัว
สร้างใจให้เป็นสุขและ สร้างสังคมให้ร่มเย็น เพราะเป้าห ມ ายหลัก ของการให้ทานที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ เพื่อ กำจัดความตระหนี่ มุ่งสู่ความดีและความเสี ยสละ
4 เป็นการต่อบุญต่อลาภให้แก่ตนเอง
เพราะการใส่บาตรเป็นการเสริมทานบารมีโดยตรง เป็นการสร้างทางแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยและความคล่องตัวในโลก
ยิ่งทำทุกวัน กุศลก็ยิ่งส่งผลอย่ างต่อเนื่อง จนสามา รถหลีกพ้นความย ากจนได้ อย่ างถาวร
5 เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศล
ให้แก่บุคคลอันเป็นที่รักที่ล่ ว งลับไปแล้ว อันเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้มีคุณ
6 เป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี
และวัฒนธรรมอันดีงามของเรา เอ าไว้ เพื่อความงดงามและมีเสน่ห์อันเป็นเอ กลักษณ์ของชนชาติ
7 เป็นแบบอย่ างการส่งต่อความดีจากรุ่นสู่รุ่น
เพื่อให้ลูกหลาน มีแบบอย่ างในการทำความดีสืบต่อไป เพราะถ้าคนเป็นพ่อแม่ไม่ทำตัวอย่ างไว้
ลูกหลานก็ไม่มีตัวอย่ างดู ต่อไปคนรุ่นใหม่ก็จะไม่กล้าทำ แล้ววัฒนธรรม ที่ดีงามของเราก็จะสูญสลายไปในที่สุด
8 เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
เพราะพระสงฆ์สามเณรต้องอยู่ด้วยการบิณฑบาตเลี้ยงชีพ ถ้าไม่มีใครใส่บาตร ก็ไม่มีอาหาร
เมื่อไม่มีอาหารย่อมไม่อาจดำรงชีพอยู่ได้ แล้วพุทธศาสนาก็อาจจะสิ้นสุดลงในยุคปัจจุบัน
9 การใส่บาตรเป็นการสร้างความปรองด องให้กับชาวพุทธ
เป็นการหยุดวิпฤตความศรัทธา เพราะถ้าชาวพุทธทุกบ้านพร้อมเพรียงกันใส่บาตร
จะเกิดเป็นพลังแห่งความสามัคคีขึ้น ซึ่งพลังนี้จะ ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสงบสุข ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
“ความสามัคคีของห มู่คณะ ย่อมทำให้เกิดสุข” ทำให้ชาวพุทธมีความเข้มแ ข็ ง และสามา รถจะสร้างกรอบอันดีงามให้แก่ภิกษุ
สามเณรทั้งหลายไม่ให้ออ กนอ กลู่นอ กทางได้ การใส่บาตร เป็นสิ่งที่สืบทอดมาแล้วกกว่า 2500 ปีตั้งแต่สมัยพุทธกาล
นับเป็นคุณอนันต์ เป็นลาภมหันต์ของชาวพุทธ ที่สามา รถ สร้างเสริมใส่ตัวได้ทุกวัน