จากการสอบถามคนที่มีอายุเกิน 40 ปี ขึ้นไปจำนวน 600 คน ว่า พวกเขาอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรในชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความเห็นตรงกัน 9 ข้อ ดังนี้
1. เริ่มต้นเก็บเงินได้แล้ว ก่อนที่มันจะสายเกินไป
เริ่มต้นวางแผนการเงินของตัวเอง และ วางแผนชีวิตหลังเกษียณได้แล้วตั้งแต่วันนี้เลย เรื่องการเงิน มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยใช่มั้ย ทุกวันนี้ต้องกินต้องใช้ ถ้ายังไม่ได้หายใจออ กออ กมาเป็นแบงก์ร้อยแบงก์พัน เรื่องนี้เราต้องดูแลให้ดี นอ กจากนี้พอจะสรุปเป็นข้อย่อยๆ ได้อีกว่า
– ให้ความสำคัญกับการใช้หนี้ที่มีดอ กเบี้ยสูงให้เร็วที่สุด
– แยกเงินสำรองไว้เผื่อ กรณีฉุกเฉิน เพราะ เราไม่รู้หรอ กว่าในอนาคต เราจะเจอปัญหาแบบไหนบ้าง สุขภาพ , การขึ้นโรงขึ้นศาล , การหย่าร้าง , เรื่องธุรกิจ หรือ อื่นๆที่ยากจะคาดเดา
– อย่าสุรุ่ยสุร่าย และ อย่าเพิ่งซื้อรถ ซื้อบ้าน ถ้ายังไม่มีความสามารถพอที่จะจ่ายในอัตราดอ กเบี้ยของรายจ่ายพวกนั้น
– อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณยังไม่เข้าใจมันดีพอ ให้เก็บเงินก้อนเอาไว้ก่อน ศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนลงมือทำธุรกิจอะไร อย่าทำอะไรตามกระแส ( จากสถิติธรกิจร้านกาแฟที่คนนิยมเปิดในปัจจุบัน 9 ใน 10 ร้านเจ๊ง ตั้งแต่ปีแรก )
2. ดูแลสุขภาพแบบจริงๆจัง
ใจเราเนี่ยมันจะรู้สึกว่าตัวเองอ่อนกว่าอายุจริง 10-15 ปี ในขณะที่สุภาพของเราอะ ไปเร็วกว่าที่เราคิดไว้มาก แล้วมันก็สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของมันได้ยากมาก ไม่ใช่เพราะเรามองไม่เห็นนะ แต่เราไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นต่างหาก บางคนกว่าจะรู้ตัวก็กลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
3.อย่าไปเสียเวลากับคนที่ไม่ได้ใส่ใจคุณ
ให้เราหัดที่จะปฏิเสธ และพูดคำว่า ไม่ ออ กไปบ้าง ถ้าต้องไปร่วมกิจกรรมหรือพบปะกับคนที่สุดท้ายแล้วไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น หลังจากดูแลสุขภาพทางการเงิน สุภาพของตัวเองแล้ว ก็ต้องมาดูแลสุภาพอารมณ์หรือจิตใจของตัวเองด้วย
– ตอนอายุ 20 โลกของเราคือ การเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เรายึดติดกับการได้รู้จักผู้คน มากมาย
– ตอนอายุ 30 โลกจะบอ กกับเราว่า ความสัมพันธ์ที่ดีเนี่ยมันหายากนะ ฉะนั้น ถ้าเจอแล้วมันไม่ดี ก็ไม่ต้องไปเสียเวลากับใครสักคนที่ไม่ได้นำพาให้ชีวิตเราดีขึ้น
– ตอนอายุ 40 คุณจะเริ่มบรรลุแล้วว่า แท้จริงแล้ว มีเพียงครอบครัว คนที่รัก และ เพื่อน สนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่พร้อมจะอยู๋เคียงข้างเราจริงๆ นอ กนั้นเข้ามาเพื่อ กอบโกยผลประโยชน์
” อย่าทนคนที่ปฏิบัติต่อคุณไม่ดี อย่าทนพวกเขาด้วยเหตุผลทางการเงิน อย่าทนพวกเขาด้วยเหตุผลทางอารมณ์ อย่าทนกับพวกเขาเพราะเห็นแก่ความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร “
4. ดีกับคนที่เขาดีกับเราให้มาก
หลังจากที่เลือ กคนที่ดีให้อยู่ในชีวิตแล้ว เราก็ควรที่จะรักษาเค้าไว้ให้ดีด้วย ไม่ใช่ว่าเห็นใครดีด้วยแล้วได้ใจไปเอาเปรียบเขา ใครดีก็ต้องดีตอบ เพื่อรักษาคนดีๆเหล่านั้นไว้ในชีวิตให้นานที่สุด
5. คุณทำทุกอย่างไม่ได้หรอ ก
โฟกัสแค่สิ่งที่คุณทำได้ แล้วทำมันให้ดีก็พอ ทุกอย่างในชีวิตคือ การแลกเปลี่ยน คุณได้บางอย่าง เพื่อเสียบางอย่างไป คุณไม่มีทางได้มันไปทั้งหมด มันเป็นเรื่องที่คุณต้องยอมรับ
6. ไม่ต้องกลัวความเสี่ยงมากก็ได้
ช่วงอายุนี้มันยังเปลี่ยนแปลงได้อยู่ จริงๆ แล้วช่วงอายุ 30-40 เนี่ย เราควรจะมีอาชีพที่ปักหลักแน่นอนแล้ว แต่มันก็ไม่ได้สายเกินไปที่จะเปลี่ยน
เพราะสิ่งที่น่าเสียใจกว่านั้นก็คือ เราใช้เวลาต่อจากนี้อีก 10 ปี อยู่กับสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ จากวันเป็นเดือน เป็นปี ลืมตามาอีกทีก็อายุ 50 แล้วมาพบกับ ” วิ ก ฤ ติ วั ย ก ล า ง ค น “ เพราะมันคือปัญหาที่เราไม่ได้แก้ไขมันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
7. จงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
บางคนเลิกเรียนรู้สิ่งต่างๆ เมื่ออายุได้ 20 บางคนพอเข้าอายุ 30 ก็ยุ่งเกินไปที่จะพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าคุณคือส่วนน้อยที่พัฒนาตัวเอง และเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ช่วงอายุ 40 จะเป็นช่วงเวลาใหม่ที่คุณจะมีความสุขกับมัน
วอเรน บัฟเฟต เคยบอ กไว้ว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดที่ คือ การเรียนศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเค้าเอง เพราะเงิน มาแล้วก็ไป ความสัมพันธ์บ้างมาแล้วก็ไป แต่ความรู้มันจะอยู่กับคุณตลอดไป
8. หยุดพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางที่คนอื่นบอ ก
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริงๆคือ คนที่ทำงานหรืออาชีพอะไรก็ได้ แล้วทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ตรงตามความสามารถ ถึงเวลากินก็ได้กิน ถึงเวลานอนก็ได้นอน มีเวลาว่างไปเที่ยวบ้าง มีเวลาออ กกำลังกาย มีเวลาให้ครอบครัว มีเวลาอยู่กับเพื่อนๆ และ ตัวเอง คนที่สมดุลในทุกๆเรื่อง ในแบบฉบับของตัวเอง และ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นั้นแหละ คือคนที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
9. รักตัวเอง เคารพตัวเองให้มากๆ
ทำอะไรเพื่อตัวเองในทุกๆ วัน ทำอะไรที่แตกต่างไปบ้างสักเดือนละครั้ง ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่บ้างปีละครั้งก็ดี ลองถามตัวเองดูว่า อีก 5 ปี 10 ปี เรื่องที่เจอ ที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ มันจะสำคัญเมื่อถึงเวลานั้น มั้ย ถ้าไม่ ใช้เวลามันแค่ไม่กี่นาที แล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ