“จงเลือกรักคน….ที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น”ไม่ว่าจะเรียนดีขึ้น งานดีขึ้น หรือมีทัศนคติที่ดีขึ้นไม่ใช่รักไปแล้วมีแต่เรื่องทุกข์ใจ
หรือความระเเวงเลือกรักคนที่อยู่ด้วยแล้วเป็นตัวเองไม่ใช่เปลี่ยนแปลงเพื่ออีกฝ่ายไปเสียหมด
อย่าพยายามเป็นอีกคนเพราะเพียงแค่อยากให้เขารักมากขึ้นเลยเพราะเราเองก็ต้องเข้าใจด้วยว่า
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบขนาดนั้นเลือกคนที่ให้ความสบายใจกับเราได้ตลอด
ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม จะไม่มีการระเเวง กังวลจนพาชีวิตเราจมอยู่กับความรู้สึกแย่ ๆ
จนเสียเวลาชีวิตหรือเลือกคนที่ให้กำลังใจส่งเสริมความฝันกันและกันไม่ใช่แค่รักกันไปวันๆ
ถ้าเจอแล้วก็จงรัก ษ า ให้ดี ประคองไว้ให้นานโตแล้ว.. มีความรักก็อยากให้มันทำให้ชีวิตก้าวหน้า
ไม่ใช่มาเสียน้ำตาร้องไห้ทุกวัน มันดูไม่รักตัวเองเอาซะเลย อย่าห ล อ пตัวเองว่าแบบนั้น มันคือความรักรักตัวเองให้มากๆ
ทุกคนสมควรจะได้เจอความรักที่แสนดีทั้งนั้นแหละอ้อ.. กอดคนข้างๆ ไว้ให้แน่นๆ ด้วยนะถ้าคิดว่าเป็นคนที่ใช่แล้ว
ไม่ภูมิใจในตัวคนรักก็ย า กจะภูมิใจในชีวิตคู่ไม่ภูมิใจในชีวิตคู่ก็ย า กจะภูมิใจในตัวเองแม้ว่าจะเคยภูมิใจในหน้าตาเกียรติยศ
ทางการงานเพียงใดอย่างไรก็ต้องเศร้าห ม อ งรู้สึกห่อเหี่ยวลึกๆอยู่ดี
แต่สำหรับบางคนแม้ภูมิใจในตัวคนรักและภูมิใจในชีวิตคู่แต่คนรักไม่ปลื้มตนสักเท่าใดในระยะย า ว
ความไม่ปลื้มนั้นก็จะแปรเป็นความกดดันน่าอึดอัดผ่านสีหน้า แววตา คำพูดและกระแสทางใจที่กระแทกใจกัน
โดยมีเหตุสามัญในแต่ละวันเป็นตัวล้วงความในใจออกมาจึงไม่น่าแปลกที่ความภูมิใจในตัวเองจะถูกบีบให้เล็กลงเรื่อยๆ
ความภูมิใจในตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนส่วนใหญ่คนส่วนใหญ่มักไม่อย า กทนหรือทนไม่ได้นาน
กับการต้องดูถูกตัวเองหรือโดนดูถูกจากคนอื่น หลายคนแค่ไม่ภูมิใจในชีวิตคู่
ส่วนลึกก็แกล้งสร้างเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้น มาเพื่อจะได้แตกกระจายหายกันไปแล้วความภูมิใจในตัวคนรัก
จึงเป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อเลือกคนรัก
ต้องดูใจตัวเองให้ดีว่าคุณปลื้ม คุณภูมิใจในเขาหรือเธอบ้ า งหรือเปล่าขอให้เตรียมใจรับความจริงไว้ล่ วงหน้า
ว่าความสนิทชิดเชื้อจะเป็นเหตุให้เห็นข้อบกพร่อง และเกิดเรื่องน่าขัดใจต่างๆนานา
ซึ่งจะบั่นทอน ระดับความภูมิใจลงได้ครึ่งหนึ่งห ม ายความว่า ถ้าเริ่มต้นเคยภูมิใจมาก
อยู่ด้วยกัน มีสิทธิ์ลดลงมาเป็นภูมิใจน้อยแต่ถ้าเริ่มต้นภูมิใจน้อยหรือไม่ภูมิใจเลยอยู่ด้วยกันก็มีแนวโน้มจะนึกดูถูกมากขึ้นทุกวัน
ในทางกลับกันอย่าสำรวจความปลื้มของตนเองฝ่ายเดียว ดูดีๆด้วยว่าเขาหรือเธอปลื้มคุณไหมหรืออย่างน้อยมีแนวโน้มว่า
จะปลื้มขึ้นเรื่อยๆบ้ า งหรือเปล่า ความปลื้มที่พอดีกัน หรืออย่างน้อยไล่เลี่ยกันจะดลใจให้นึกอย า กทำอะไรดีๆต่อกัน
หรือกระทั่งบันดาลกระแสสุขขึ้น มาในอากาศรอบตัวเมื่ออยู่ใกล้กัน คำพูดตอนไม่พอใจกัน
หรือตอนใครพลาดล้มเป็นสิ่งที่พลิกความรู้สึกได้ทั้งเขาทั้งเราแม้อาการ ‘แอบคิดไม่ดี’ยังฝังตัวอยู่หลายจุด
ก็จะค่อยๆถอดถอนผ่านวันผ่านคืนที่ ‘รู้จักพูดถนอมน้ำใจ’ ได้ ถึงแม้ไม่อาจแกล้งภูมิใจแต่ก็ ‘เต็มใจ’
ที่จะพอใจในคู่ของตนบ้ า งอย่างน้อยไม่ต้องเฝ้าคอยหันไปเทียบเคียงกับคู่ที่เขาดูดี
มีความน่าภูมิใจกว่าความรู้จักพูดถนอมน้ำใจเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับความรู้สึก
มันเป็นกุญแจที่ต้องสร้างเอาไม่ใช่รอรับจากใคร หรือแสวงหาจากไหน!