คนทุกคนเวลามีความรักมักจะพย าย ามทำให้ความรักแฮปปี้ มีความสุขที่สุด
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรเลย ใคร ๆ ก็อย ากมีรักดี ๆ ที่ไม่ทำให้ทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
แต่ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ได้ทั้งหมด ความรักก็เช่นกัน เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความรักไม่เป็นอย่ างที่คิด
คนส่วนใหญ่จะพย าย ามต่อไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องพย าย ามไปจนถึงเมื่อไหร่
สุดท้าย..แม้จะรักไป เ จ็ บ ไป คนเหล่านั้นก็ยังอดทนเพื่อประคับประคองความรักให้ยังอยู่
คนเราไม่ควรต้องจมอยู่กับความทุกข์ ความเสียใจแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่ ารั้งตัวเองไว้ในวังวนความรักแบบผิด ๆ
1. รักไปก็มีแต่ทำให้ชีวิตแ ย่ ลง
รักที่มีแต่ทำให้ชีวิตแ ย่ ลงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบความรักที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรต้องเจอ คนเราจะมีความรักทั้งที
หาดี ๆ ไม่ได้ ก็อย่ ามีมันเลย ถ้ามีความรัก มีคนเข้ามาในชีวิต แต่คน ๆ นั้นคอยฉุด คอยดึง
คอยรั้งให้ชีวิตเรามีแต่แ ย่ ลง หรืออย่ างน้อยก็เหมือนเดิมแบบไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ควรต้องคิดแล้วว่าเราจะรักไปทั้งแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม
คนเราเมื่อมีใครสักคนเดินเข้ามาในชีวิต อย่ างน้อยก็ควรทำให้ชีวิตดีขึ้นไม่ว่าด้านใดก็ด้านหนึ่ง
เรื่องเงิน เรื่องฐานะ อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไปก็จริง แต่ต้องมีสักอย่ างที่คน ๆ
นั้นทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เช่น หน้าที่การงาน ชีวิตความเป็นอยู่ งานอดิเรก ครอบครัว ไลฟ์สไตล์ หรืออะไรก็ตาม
บอกตามตรงว่าเดี๋ยวนี้ความรักอย่ างเดียวมันไม่เคยพออีกแล้ว และเรื่องจริงก็คือสมัยนี้ไม่มีใครยอมไปกัดก้อนเกลือกินอีกต่อไป
ถึงแม้คนที่เข้ามาในชีวิตไม่จำเป็นต้องรวย มีบ้ า นหลังโต แต่ก็ต้องมีความพร้อมใน
ชีวิตระดับหนึ่งที่จะส่งเสริมกันในเรื่องอะไรสักอย่ าง เรียกว่าเป็นคนที่มีมาตรวัดเดียวกัน มีศีลเสมอกันนั่นแหละ
ที่สำคัญอย่ าลืมว่าคนที่มีอะไรคล้าย ๆ กันก็จะดึงดูดเข้าหากัน ถ้าเราไม่เริ่มเป็นคนดี ทำตัวดี มีชีวิตดี ๆ เสียก่อน
คนที่จะเข้ามาหาเราก็ย่อมเป็นคนที่ใกล้เคียงกับเรานั่นแหละ เพราะฉะนั้นทำตัวเองให้ดี เพื่อเปิดโอกาสให้คนดี ๆ เข้ามาในชีวิต
2. รักที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
เรื่องน่าเศร้าที่สุดของคน มีความรักก็คือ พอรักใครแล้ว เรามักจะชอบเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนเพื่อให้เค้ารัก เปลี่ยนเพื่อให้เค้าไม่
ไปจากเรา บางคนเปลี่ยนซะจนลืมไปเลยว่าจริง ๆ เราเป็นคนยังไงกันแน่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร
บนโลกนี้มีหลายคนยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อความรัก ยอมแม้กระทั่งไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย เพื่อให้ความรักได้เดินหน้าต่อ แต่ลืม
ไปหรือเปล่าว่าความรักแบบนี้มีแต่จะทำให้เราอ่อนแอขึ้น อยู่ด้วยตัวเองได้ย ากขึ้น เพราะไม่มีพื้นที่ตรงไหนเลยที่เป็นของเรา
ทุกอย่ างขึ้นอยู่กับอีกคน ถูกกำหนดโดยอีกคน สุดท้ายเราก็จะสูญเสียความเป็นตัวเอง ไม่มีเค้า เราก็อยู่ไม่ได้
ความรักไม่ใช่การเปลี่ยนแต่คือการปรับและยอมรับซึ่งกันและกัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่คนใดคนหนึ่งเริ่มเปลี่ยนตัวเอง เมื่อนั้น มันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความพย าย ามที่อาจจะหมดลงวันใดวันหนึ่งก็ได้
3. รักไป..ช้ำไป
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แค่ 2 คนเท่านั้นเลยจริง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสอง
แต่เป็น 3, 4 หรือมากกว่า เมื่อนั้น มันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความโลภของคน ๆ หนึ่งที่ไม่ควรแม้แต่จะถูกรัก
พอรักดำเนิน มาแบบนี้ ไม่แปลกที่รักจะกลายเป็นความอดทน แต่คนเราจำเป็นต้องทนกับความรักแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า
บางคนบอกว่าไม่เจอกับตัวเองไม่มีวันรู้..ว่าการจะเดินออกไปจากชีวิตใครสักคน มันต้องใช้มากกว่าความกล้า เหตุผลหลายอย่ าง
ทำให้คนเราต้องทนแม้จะรักไป ช้ำไปก็ตาม แต่ลองถามตัวเอง ถามคนรอบข้างดูให้ดีสิว่า..เราจะทนกับการไม่มีความสุขแบบนี้ไปอีก
นานแค่ไหน เพราะความอดทน มีที่สิ้นสุดเสมอ อะไรที่พ่วงท้ายมา ด้วยความอดทน มันจะหมดลงและแตกหักแบบไม่เหลือชิ้นดีในที่สุด
ถึงแม้การเดินออกไปจากชีวิตใครสักคนต้องใช้เวลา แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเป็นเสียเวลาที่ไม่มีความสุขนั้นไป
4. รักที่ต้องเ จ็ บ (ตัว)
ไม่มีใครควรต้องเ จ็ บ เพราะความรัก ไม่ว่าจะเ จ็ บ ใจหรือเจ็บ ตัวก็ตาม เพราะคนรักกันจะต้องไม่ทำร้ า ย กันทั้งร่างกาย และจิตใจ
ที่แปลกก็คือ มีคนจำนวน มากยอมเ จ็ บ ตัว โดยให้เหตุผลว่านอกจากเรื่องทำร้ า ย ร่างกาย แล้ว เรื่องอื่นก็ดีหมด ซึ่งคนส่วนใหญ่ยอมเ จ็ บ
ตัวเพื่อให้ความรักและครอบครัวได้เดินหน้าต่อ แม้จะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างแปลกแต่หญิงไทยจำนวน มากก็เป็นแบบนั้น
ก่อนหน้านี้มีการศึกษาอย่ างจริงจังของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ระบุว่าผช.ไทยมีแนวโน้มที่ใช้ความรุน แ ร ง ทำร้ า ย ร่างกาย ถึง
44.8% และในจำนวนนี้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ดังนั้นถ้าเค้าเคยทำร้ า ย ร่างกาย ยังไง
ก็จะทำอยู่อย่ างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่าไม่ว่ารักมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนพฤติกรรมของอีกคนได้เช่นกัน
ข้อแนะนำของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลบอกว่า ก่อนจะรักควรศึกษาทัศนคติของผช.ในเรื่องการใช้ความรุน แ ร ง และสังเกต
พฤติกรรมทางอารมณ์ก่อนแต่งงาน หากมีอารมณ์ก้าวร้าว ควบคุมตัวเองไม่ได้ ฝ่ายหญิงควรต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
แต่ถ้าแต่งงานไปแล้วและประสบปัญหา ก็ไม่ควรรู้สึกอับอายที่จะต้องหย่ าร้างหรือมีคู่ใหม่ และไม่ควรต้องอดทน
เพราะหลายกรณีความอดทนเป็นแรงผลักให้ผญ.ต้องป้องกันตัวเอง จนนำไปสู่การฆ่ า สามี หรือถูกสามีฆ่ า มาแล้ว
สรุปได้ว่าเมื่อรักแล้วต้องเ จ็ บ ทั้งตัวและใจ ก็ควรต้องตัดใจและเดินออก
มาจากชีวิตของอีกคนซะ เพราะรักไม่ใช่การทน แต่รักคือการทั้งทุกข์และสุขร่วมกัน
5. รัก..ที่เกินรัก
ความรักเป็นเรื่องดี ๆ ที่สวยงาม แต่รักที่เกินรักจะยังคงเป็นความสวยงามอยู่ไหม ? ในทางพระพุทธศาสนาเรามักได้ยินได้ว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ ยิ่งมีรักมากก็ยิ่งทุกข์มาก
แต่ไม่ใช่เพราะรักจึงทุกข์ คนเราทุกข์เพราะไปยึดติดกับความรักต่างหาก โดยทั่วไปคนทุกคน มีแนวโน้มที่จะคาดหวังกับอะไรบางอย่ างอยู่แล้ว ดังนั้นพอมีความรักก็ไม่แปลกที่จะคาดหวัง
ยึดติดกับความรักและคนรัก พอคาดหวัง พอยึดติดแล้วไม่ได้ดังที่หวังก็เลยทำให้ทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติวิสัยที่สุดบนโลกใบนี้
เพราะฉะนั้นยิ่งรักมากก็ยิ่งยึดติดมาก คาดหวังมาก อย ากให้ทุกอย่ างเป็นไปตามที่ต้องการ กลายเป็นรักเกินรักที่มักจะทำ ล า ย ทั้งคน
ที่รักและคนที่ถูกรัก ทำให้คนหนึ่งก็อึดอัด ส่วนอีกคนก็ทุกข์เพราะรักที่ยึดติดไม่ยอมปล่อย สุดท้ายก็กลายเป็นรักมัว ๆ ที่ถึงจะรักกัน แต่ก็ไม่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่
6. รักแท้ดูแลไม่ได้
ความรักที่ไม่เคยแสดงออก ไม่เคยใส่ใจ ยังเรียกว่า ‘รัก’ อยู่ไหม ?
เมื่อคนสองคนรักกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์หรือความรู้สึกอย่ างเดียว
แต่รวมถึงการกระทำ คำพูด และอีกหลายอย่ างที่บ่งบอกให้รู้ว่ายังรักกันอยู่
ถ้ารักใครสักคน ก็จงทำให้เค้ารับรู้ว่ารักเค้าทั้งการกระทำและคำพูด ไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้ารักแต่ไม่เคยใส่ใจ
ไม่เคยมีเวลาให้ เพราะถ้ามีความรักแล้วยังต้องอยู่คนเดียวทั้งตอนที่อ่อนแอ ตอนทุกข์และสุข เราจะมีคนรักไปทำไมจริงไหม..
7. รักที่เอาแต่ครอบครอง
ปกติพอมีความรักคนเรามักจะอย ากยึด อย ากรั้งคนที่เรารักไว้กับตัวเสมอ ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีกคน อย ากให้เค้าเป็นในสิ่งที่เรา
อย ากให้เป็น อย ากให้เค้าทำในสิ่งที่เราอย ากให้ทำ แต่เชื่อไหมความรักแบบนี้ไม่เคยเป็นรักที่ยืนย าว
การที่คนหนึ่งทำตัวเป็นเจ้าของอีกคนคือการยึดติด เหนี่ยวรั้งให้เค้าไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง ต้องทำอย่ างที่อีกคนต้องการ ซึ่งไม่มี
ใครทนกับความรักแบบนี้ไปตลอด ยังไงก็ต้องมีสักวันที่อึดอัด หายใจไม่ออก กดดัน
และสุดท้ายการเลิกราอาจจะเป็นคำตอบที่ง่ายที่สุดก็ได้
เพราะฉะนั้น ‘รักจึงไม่ใช่การครอบครอง’ แต่ความรักคือการแบ่งปันเรื่องราวทั้งในย ามทุกข์ และสุข คือการปล่อยให้อีกคนได้มีพื้นที่
หายใจและเป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ใช่การไม่เอาใจใส่หรือละเลยกันและกัน
คำว่า ‘ครอบครอง’ กับคำว่า ‘เอาใจใส่’ ทั้งการกระทำและความห ม ายไม่มีอะไรเหมือนกันสักนิด
ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสได้เจอรักที่มีแต่ความรู้สึกดี ๆ เอาใจใส่ จริงใจ เชื่อใจ ไว้ใจซึ่งกันและกัน จะรู้เลยรักที่มีแต่การครอบครองเป็นรักที่ไม่มีใครต้องการ