” ความรัก ” เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร รักกันวันนี้ ก็หมดรักได้ นับประสาอะไรกับการโดนบอกเลิก
การมีแฟนบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าคุณกับแฟนจะรักกันไปจนชั่ วฟ้าดินสลาย
คบกัน มานานขนาดไหน หรือว่าแต่งงาน มีลูกแล้วก็ยังเลิกรากันได้
1. หยุดร้องไห้, พร่ำเพ้อละเมอหาถึงรักที่จบไปแล้ว
ก่อนที่จะให้คนอื่นช่วยเรา เราต้องช่วยตัวเองก่อนค่ะ อันดับแรกคือต้องควบคุมตัวเองให้ดี
ระงับอารมณ์ความรู้สึกของเราให้สงบนิ่งที่สุด การร้องไห้ ตีโพยตีพายเรียกร้องให้เขากลับมานั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น
เพราะ ” คนจะไป ก็ต้องไป ” เราไม่สามารถไปเหนี่ยวรั้งตัวเขาให้อยู่กับเราได้ ต่อให้รั้งตัวได้
แต่เมื่อใจของเขามันไม่อยู่กับเรา ทุกอย่ างมันก็จบ!
ทางที่ดี ช่วงแรกๆ อย่ ารื้อฟื้นความทรงต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาออกมา จะเป็นการดีที่สุด
ไม่เช่นนั้น มันจะยิ่งเป็นการทำร้ า ยความรู้สึกตัวเองมากขึ้น พย าย ามอย่ าฟื้นฝอยหาตะเข็บ
หรือหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทิ้งเราไป สิ่งที่ควรจะทำให้ได้ ณ จุดนั้นคือ ” อยู่กับปัจจุบัน ”
มีอะไรสำคัญที่ต้องทำอีกมากมาย มากกว่าจะไปนึกถึงเรื่องวันวานให้ต้องช้ำใจเล่นนะคะ
2. อย่ าโพสต์อะไรลงโซเชียลเด็ดขาด
ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากจะต้องเลิกร้องไห้ หยุดพร่ำเพ้อถึงเขาคนนั้นแล้ว ในโลกโซเชียลก็ต้องทำด้วย
จริงอยู่ที่ โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา เราสามารถโพสต์หรือเเ ช ร์อะไรไปก็ได้ แต่จงอย่ าลืมว่าเมื่อมันถูกโพสต์ลงไปแล้ว
สิ่งเหล่านั้นก็จะไปอยู่ในที่ที่เป็นสาธารณะโดยทันที!
ไม่ใช่แค่เรื่องอกหักเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็ด้วย การโพสต์อะไรลงไปบนโลกโซเชียลนั้น มันเป็นการแสดงความเป็นตัวตนของเราในอีกทางหนึ่ง
ยิ่งเป็นการแสดงอารมณ์อย่างรุนแรง มันจะทำให้คนภายนอกมองเราในทางที่ไม่ดี โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเราเป็นคนอย่างไร
ที่แย่ไปกว่านั้น มันอาจเป็นการรบกวน ทำให้คนอื่นเกิดความรำคาญได้ ซ้ำร้ า ยไปกว่านั้น
หากแฟนเก่ามาเห็นโพสต์ของเราด้วยแล้ว มีแต่เสียกับเสียค่ะ เพราะมันอาจทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองตกเป็นจำเลยในเรื่องนี้อย่ างเสียไม่ได้
มองหน้ากันไม่ติดไปเลยล่ะทีนี้ หากอยากหาที่ระบายความรู้สึก หรือทนไม่ไหวแล้ว ต้องโพสต์ความรู้สึกนั้นออกไปให้ได้
แนะนำให้ตั้งสเตตัสในโซเชียล อยากเขียน อยากระบายความอัดอั้นตันใจอะไร ก็ปล่อยออกมาให้หมดเลย
แต่!…ให้ตั้งค่าเป็นเฉพาะฉัน ไปนะคะ เห็นคนเดียวไปนั่นแหละ เราอาจจะอยากให้มีคน มาคอมเมนต์ปลอบเราให้รู้สึกดีขึ้น
แต่อย่าลืมว่าเพื่อนในโซเชียลนั้นไม่ได้มีแค่เพื่อนที่สนิทกันนะคะ เราคงไม่อยากให้คนเป็นร้อยเป็นพันต้องมารับรู้เรื่องของเรา
แล้วเอาไปโพนทะนาหรอก จริงมั้ย? หรือในอีกทางหนึ่ง ระบายให้เพื่อนสนิทฟังค่ะ อยากร้องไห้
อยากจะอะไรก็ปล่อยมันออกมาให้หมด คนเป็นเพื่อนกัน ย่อมรับฟังกันได้อยู่แล้ว
3. ตามตื๊อทุกวิถีทาง
นึกถึงเวลาที่เราถูกตื๊อให้ซื้อคอร์สความงามของสถาบันความงามในราคาแพงๆ สิคะ ชอบรึเปล่า?
มันน่ารำคาญใช่มั้ยล่ะ เวลาที่มีใครมาตามตื๊อให้ทำอะไร ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม กับแฟนเก่าก็เหมือนกันค่ะ
การที่เขาทิ้งเรา มันก็ห ม ายความว่าเขาหมดรักเราแล้ว จะตามตื๊อไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าเขาคงไม่กลับมาแน่นอน
มิหนำซ้ำเขาจะยิ่งรำคาญเรามากขึ้นจนอย ากจะถอยหนีไปให้ห่างๆ เราเลยก็ได้ โดนบอกเลิกก็ว่าหนักพอแล้ว
นี่ถ้าโดนเขามึนตึง เพิกเฉย ไม่ใยดี มันไม่หนักกว่าหรือ? คิดดูนะคะ
4. เรียกร้องความสนใจ
ที่จริงการโพสต์อะไรลงบนโซเชียลมีเดียก็เป็นการเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว แต่ในข้อนี้มันรุนแรงกว่านั้นค่ะ
บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองไม่สบาย อ่อนแอ หรือทำร้ า ยตัวเอง
เพื่อให้เขากลับมาสนใจ ต้องการให้เขาสงส า ร
โดยมีนัยประมาณว่า ” อย่าทิ้งฉันไป ฉันอยู่ไม่ได้โดยไม่มีคุณ ”
พูดจริงๆ เลยนะคะ แฟนเก่าของคุณเขาอาจจะกลับมาสนใจคุณเพราะความสงส า ร แต่!
ความสงส า ร กับ ความรัก มันเป็นคนละเรื่องกันค่ะ ดีไม่ดีความสงส า รกลับกลายเป็น ‘ สมเพชเวทนา ‘
หรือกลายเป็น ‘ ความรำคาญ ‘ จนถึง ‘ เกลี ยดขี้หน้า ‘ ไปเลยก็ได้ ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งเหมือนเราทำตัวไม่มีค่าอะไร
แล้วแบบนี้คุณค่าของเราอยู่ที่ไหนล่ะคะ ลุกขึ้น มาอย่างสตรอง อย่ามัวแต่นั่งจ๋อยเป็นห ม าหงอย แบบนี้มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
อย่างน้อย ต้องรักตัวเอง ก่อนที่จะให้คนอื่น มารักค่ะ!
5. หาคนใหม่มาดามใจทันที
ถ้ามีคนใหม่เข้ามา แล้วคุณรู้สึกรักเขาจริงๆ เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ทว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!
เพราะถ้าเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า ไม่มีทางที่คุณจะอย ากมีใครเข้ามาใหม่ทันทีหรอก อย่างน้อยมันก็อาจจะมีความอาลัยอาวรณ์รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป
เว้นเสียแต่ว่าใจจริงนั้นคุณก็ไม่ได้รัก ” คนในอดีต ” ของคุณเลย
ถึงคนใหม่ของคุณจะดีสักแค่ไหน แต่ถ้าหากว่าคุณยังคิดถึงคนเก่าๆ มันก็ไม่ได้ช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้น มาหรอก
มันยิ่งจะเป็นการทรมานทั้งตัวคุณและ ” คนใหม่ ” โดยที่แฟนเก่าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เรียกว่า งานนี้คุณจะเจ็บ และยังพาคนอื่น มาเจ็บด้วยนะคะ
6. ระรานแฟนใหม่ กิ๊กใหม่ ของแฟนเก่า
ข้อนี้เรียกว่ารุนแรงที่สุดแล้วล่ะมั้ง จริงอยู่ที่ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราและเขามีสิทธิ์ที่จะรัก,
เลิกรัก และมีใครคนใหม่แวะเวียนเข้ามาอยู่เสมอ หากเรื่องของเรากับเขามันจบไปแล้ว
เขาก็มีสิทธิ์ที่จะไปมี ” คนใหม่ ” คราวนี้ก็เป็นเรื่องของ ” เขาสองคน ” แล้ว
เราเองก็ไม่ควรจะไปเป็น ” คนที่สาม ” ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะเราอยู่ในฐานะ ” คนนอก ”
เท่านั้น การไประรานความสัมพันธ์ของคนอื่น นอกจากจะไม่ดีในสายตาของคนคู่นั้นแล้ว
คุณจะยังดูไม่ดีในสายตาของคนรอบข้างด้วย ที่สำคัญมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เรา ” ดูไม่แพง ” เป็นอย่างยิ่ง!
การเลิกรากันของคู่รักแต่ละคู่ต่างมีเหตุผลต่างกัน บางคู่อาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
ถึงจะเป็นเรื่องใหญ๋ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตค่ะ เศร้าได้ แต่อย่าเศร้านาน
จนกลายเป็นการจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอด ชีวิตของคนเราต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ ในอนาคตจะมีใครคนใหม่เข้ามาหรือไม่
สิ่งนี้มันไม่สำคัญเลยค่ะ สุดท้ายมันขึ้นอยู่ที่ว่า เราพอใจและเป็นสุขกับชีวิตที่เรามีมากแค่ไหน