10 บทเรียนถ้ารับไม่ได้ ก็อย่าได้ริมีความรัก

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ความรักก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป

ความรักมีทั้งสุข ทุกข์ ผิดหวัง เสียใจ และ เจ็บปวด หน้าที่ของเราคือยอมรับในทุกแง่มุมนั้นให้ได้ว่าจริง ๆ

แล้วความรักไม่ได้มีแต่ความสวยงามเท่านั้น

แต่ความรักมาพร้อมกับความทุกข์ที่เราต้องทำความเข้าใจผ่านบทเรียนต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อที่ว่ารักครั้งนี้หรือครั้งไหน ๆ จะได้ไม่ต้องเ จ็ บ ป ว ดเพราะเราเองที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของรักที่แท้จริง

1. รัก = ทุกข์

หลายคนไม่รู้ว่า “รัก = ทุกข์” ไม่งั้นพระพุทธเจ้าคงไม่ตรัสไว้หรอกว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่น มีทุกข์” เพราะถ้าคิดจะรักก็ต้องรักให้เป็น รักอย่ างมีสติเพื่อไม่ให้เป็นทุกข์มากเกินไป เตือนสติตัวเองตลอดเวลาว่าเมื่อมีความรักก็ย่อมต้องมีทุกข์และสุขปะปนกันไป เข้าใจและยอมรับให้ได้ถึงจะเรียกว่ารักเป็น

หลักการก็คือต้องใช้ความจริงเป็นที่ตั้ง คิดตามความเป็นจริง เข้าใจธรรมชาติของความรัก เพราะท้ายที่สุดพระพุทธศาสนาไม่ได้บอกว่าความรักไม่ดีหรือบอกว่าให้ทุกคนไม่ต้องมีความรัก เพียงแต่เตือนสติเท่านั้นว่า “เมื่อคิดจะรัก ก็ต้องทุกข์ให้เป็น”

2. คิดจะรักใคร ต้องรักตัวเองให้เป็น

จริง ๆ แล้วไม่มีความรักแบบไหนที่จะยั่งยืน มั่นคง และถาวรได้เท่ากับความรักที่เราจะมีให้ตัวเองอีกแล้ว เพราะไม่มีใครรักเราได้มากเท่ากับตัวเราเอง

ในทางพระพุทธศาสนา การรักตัวเอง คือการพย าย ามหาหนทางที่จะนำตัวเองออกจากกิเลสตัณหาให้ได้ แปลว่าถ้าเรารักตัวเองมากกว่าที่รักคนอื่น เราจะทุกข์น้อยลง

ในทางโลก การรักตัวเอง คือการมองเห็นคุณค่าและเคารพในตัวเอง ไม่ทำร้ า ยตัวเองให้เ จ็ บ ป ว ดทั้งกายและใจ ซึ่งตามหลักแล้วเราควรรักตัวเองให้ได้ก่อนที่จะรักคนอื่น

เพราะถ้ารักตัวเองได้แล้ว เราจะเข้าใจคนอื่น มากขึ้น เข้าใจว่าไม่มีอะไรเป็นไปตามที่เราต้องการได้ทั้งหมด สุดท้ายความรักก็จะอยู่บนพื้นฐานของความสบายใจที่จะรักกันและกัน

3. ไม่เคยมีใครต า ย จากการอกหัก มีแต่ความอ่อนแอเท่านั้นที่ฆ่ าเราให้ต า ย

จริง ๆ แล้วไม่มีใครต า ย เพราะความรักที่ไม่สมหวัง อกหัก โดนเท หรือไม่มีใครรัก และต่อให้เจ็บเจียนต า ย แค่ไหน ร้องไห้มากแค่ไหน เวลาจะทำหน้าที่ของมันเอง

เวลาจะคอยเยียวย าให้จิตใจของเราแข็งแรงขึ้น แม้มันจะเจ็บ แต่ก็ไม่ถึงกับต า ย ถ้ามันยังเจ็บ ยังปวดกับความรักนี้มากเกินจะทนไหว แปลว่าเรายังให้เวลากับความเ จ็ บ ป ว ดนั้นไม่พอ

สิ่งเดียวที่ทำให้ต า ย คือความอ่อนแอของเราเองที่ฆ่ าเรา ที่ทำให้เราคิดจบชีวิตตัวเองซะ และเป็นความอ่อนแอนี่แหละที่ทำให้มโนไปเองว่าตัวเองไร้ค่าจนไม่มีใครมารัก

ความเสียใจและส า รพัดความรู้สึกผิดหวังประเดประดังเข้ามาจนคิดอะไรไม่ออก นาทีนั้นสิ่งต่าง ๆ รุมเข้ามาในหัว ทั้งความรัก ความผูกพัน ความทรงจำ และความสูญเสีย สุดท้ายก็หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้จนตัดสินใจจบความผิดหวังนั้นซะด้วยชีวิต

4. ไม่คาดหวังก็ไม่ผิดหวัง

แต่ใครล่ะ..จะไม่คาดหวังในความรัก เพราะเมื่อรักไปแล้วก็ย่อมต้องคาดหวังให้อีกคน มารักตอบด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่มีทางเลยที่ความรักจะอยู่บนพื้นฐานของความไม่คาดหวัง

แต่รู้ไหมว่า..เมื่อไม่คาดหวัง สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือจะไม่ผิดหวัง และถ้าเราไม่ผิดหวัง เราก็จะไม่เป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นถ้าเราอย ากมีรักในแบบที่ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องเ จ็ บ ป ว ด ก็ต้องมีความรักในแบบที่ไม่ต้องคาดหวังว่ามันจะออกมาดี ว่ามันจะทำให้เรามีความสุข หรืออะไรก็ตาม

ความรักแบบนี้เป็นความรักที่ทำให้สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะไม่ใช่ไม่รักกัน แต่รักกันแบบไม่ได้หวังให้อีกคนต้องมารักตอบ

5. อย่ าเข้าข้างตัวเอง ถ้าเริ่มรู้สึกแปลก ๆ

เรื่องแปลกของความรักก็คือ แค่รักอย่ างเดียว มักไม่ค่อยพอ พอผ่านช่วงเวลาแห่งรักไปแล้ว อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป

ถ้าสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้เราเริ่มรู้สึกแปลก ๆ อย่ าได้พย าย ามคิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด เพราะนี่คือสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม แต่อย่ าถึงขั้นคิดไปเอง จับต้นชนปลายไปเอง

สิ่งที่ต้องทำก็คือพิจารณาสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นอย่ างเป็นกลาง ถอยออกมามองใน มุมที่กว้างขึ้น ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เรา จะคิดเหมือนกันไหม วิธีนี้ทำให้เราไม่เข้าข้างตัวเองโดยมีความรักมาบังตา และการที่เราเชื่อสัญญาณเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ บางทีก็อาจทำให้เจ็บน้อยลงก็ได้

6. อย่ าทนถ้ามันเริ่มเจ็บ

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ความรักทำให้เจ็บปวด เราก็แค่ต้องเดินออกมา เราไม่จำเป็นต้องทน แค่เพราะ “รัก” เพราะถ้ามีรัก ก็ต้องมีสุขมากกว่าทุกข์ ถ้าวันไหนทุกข์มากกว่าสุข จะทนไปทำไม

7. ไม่จำเป็นต้องเสียดายเวลา

ความรักไม่ได้แปรผันตามเวลา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมานั่งเสียดายเวลา ถ้ารักนั้นทำให้เจ็บปวด หรือเสียใจ

จริงอยู่ที่ความรักอาจต้องใช้ความอดทน แต่ถ้าความรักทำให้เจ็บซ้ำไป ซ้ำมาก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องทน แล้วปล่อยให้ตัวเองต้องเจ็บต่อไป ด้วยเหตุผลเพียงแค่เพราะเสียดายเวลา

เวลายิ่งนาน ยิ่งห ม ายความว่าเราควรต้องจบเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้ว เราเสียเวลากับความเจ็บปวดมามากพอแล้ว อย่าเสียดายเวลาที่ผ่าน มา แต่จงเสียดายที่ปล่อยเวลาไปกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา

8. บางครั้ง ‘รัก’ ก็ไม่ช่วยอะไรเลย

เรื่องแปลกอีกอย่ างของความรักก็คือ ถึงจะรักแค่ไหน แต่บางครั้งรักก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะความรักต้องประกอบด้วยคนสองคน เมื่อไรก็ตามที่คนหนึ่งรัก แต่อีกคนหมดรัก ต่อให้เรารักเค้าแค่ไหน เราก็เป็นได้แค่คนที่เคยรักเท่านั้น

เมื่อไม่รักก็คือไม่รัก จะยื้ อยุดฉุดกระชาก ขอร้องอ้อนวอนแค่ไหนก็ไม่เป็นผล สู้ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ใช้ชีวิตต่อไปในแบบที่ไม่มีเค้า เราอาจจะทุกข์น้อยลงก็ได้

9. อย่ าเอาความสุขของเราไปฝากไว้ที่ใคร

ความสุขของเรา..เราต้องกำหนดเอง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเอาความสุขไปฝากไว้ที่ใคร แปลว่าเค้าจะทำให้เราไม่มีความสุขแค่ไหนก็ได้ถ้าความสุขของเราคือการมีเค้า การที่เค้ารักเราตอบ

แปลว่าเมื่อวันใดวันหนึ่งที่เค้าจากไป ความสุขก็จะจากเราไปตลอดกาล เพราะแม้จะเป็นคนที่เรารัก แต่เค้าก็ไม่ได้มีหน้าที่มาทำให้เรามีความสุข มันไม่ใช่เรื่องของเค้า..ชีวิตเรา ใจเรา ความสุขของเรา เราต้องดูแลเอง

10. ก่อนจะมีใคร เราก็อยู่ของเราเองมาได้ตั้งนาน

น่าแปลกที่คนอกหักหลายคนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ก่อนจะมีเค้า เราอยู่ยังไง ใช้ชีวิตยังไง สบายแค่ไหน เป็นตัวของตัวเองขนาดไหน เราลืมมันไปหมดแล้ว เพราะความรักทำให้เราลืมนึกถึงตัวเองจริง ๆ แล้วในวันที่ความรักจบลง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย เราก็ยังคงเป็นเราคนเดิม แค่เสียใจมากขึ้น ร้องไห้นิดหน่อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.