สัญญาณบอกใครคือเนื้อคู่ของคุณ?

ในเมื่อคุณอยากลองคบหาใครสักคน ไม่ว่าเขาหรือเธอจะมา “สนใจ” คุณก่อน หรือตรงข้ามคุณไปสนใจเค้าก่อน การทำความรู้จักกันจึงเป็นจุดเริ่มต้น และทุกคนที่เพิ่ง

รู้จักกับใครสักคน มักทำดีต่อกัน มากกว่าแสดงนิสัยแย่ๆออกมาอยู่แล้ว เพราะทุกคนอยากเริ่มต้นกับ “คนที่เพิ่งรู้จัก” ด้วยการสร้างความประทับใจ แล้วใครจะไปรู้ล่ะว่า สักวันคนที่เรารู้จักคนนี้จะเป็นเพื่อน, เป็นแฟน หรือเป็นคนอุปถัมภ์กันในอนาคต

แต่ถ้าหากคุณเจอใครสักคนแล้วติดตาต้องใจชอบเค้าเป็นพิเศษ งั้นเอาอย่างนี้ไหม ถ้าชอบคนนั้นแบบอยากรบกวนชวนให้มารักกัน ก็มีสัญญาณบ่งบอกว่า คนนี้ (ที่คุณชอบ) จะเป็นเนื้อคู่หรือโซลเมทของคุณก็ได้

1.คุณกับเขาชอบพูดคุยสื่อส า รความคิดเห็นกันบ่อยๆไหม?

อย่าลืมนะฮ้าว่า กุญแจสำคัญของการสร้างความผูกพันและความรักย่อมหนีไม่พ้นการติดต่อสื่อส า รกันนี่แหละ แล้วปัจจุบัน มีวิธีสื่อส า รกันหลายทางซะด้วย

ใครจะมาอ้างว่าติดต่อกันไม่ได้นี่มันหมดยุคไปแล้วรึเปล่ายะ เดี๋ยวนี้สามารถติดต่อพูดคุยกันได้ทั้งไลน์, ในเมสเซนเจอร์, เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และอื่นๆ

คู่ที่มีแนวโน้มคุยกันถูกคอ และคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ แยกแยะว่า อะไรถูก, อะไรผิด, สามารถคุยเล่นก็ได้, คุยเรื่องงานเรื่องการก็ได้,รับฟังปัญหาของกันและกัน จน มีความเห็นอกเห็นใจกันนี่ ไม่ธรรมดานะ

ท่านว่าคู่ที่คุยกันได้ (ในเวลาที่เห ม าะสมด้วยนะ ไม่ใช่ไปรบกวนเวลาทำงานคงไม่ดีแน่) ฉะนั้น ใคร ที่คุณคุยด้วยได้ และไว้วางใจปรึกษาหรือเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง นี่แหละคือคนที่คุณควรเลือกมาเป็นแฟนล่ะ

2.เวลาคุยกับเค้าหรือเวลาอยู่ด้วยแล้วสบายอกสบายใจก็คนนี้แหละ

เวลาคุณอยู่กับเค้าแล้วคุณเคยรู้สึกเครียดไหม? ถามใจตัวเองดู แต่ถ้าเครียด ลองถามตัวเองก่อนว่าเพราะอะไร?

เช่น กลัวว่าเค้าคิดว่าคุณไม่สวยบ้างล่ะ, เครียดเพราะเค้าชอบพูดเรื่องจริงจังตลอดเวลา แล้วคุณเกรงว่า

ถ้าคุณพูดเรื่องไร้ส า ระขึ้น มาแล้วจะโกรธหยั่งงั้นหรือ? ถามจริง? เพราะส่วนใหญ่คนที่ดูภาย นอกเป็นคนจริงจัง

เคร่งขรึมมักชอบอยู่ใกล้คนที่ดูเหมือนไร้ส า ระนะ แต่เอาเป็นว่า เมื่อไหร่ที่คุณอยู่

ใกล้เค้าแล้วเครียดก็คงไม่ดีมั้งไปหาใหม่เถอะ หากคุณใกล้ชิดกับใครสักคน แล้วไม่สบายใจ จะอยู่ด้วยทำไม?

คุณควรหาคนที่ “รับ” ในสิ่งที่คุณเป็นได้ด้วย เช่น ถ้าคุณชอบช็อปปิ้งแต่เค้าไม่ชอบ ทว่า ก็ไม่ได้ขัดขวาง

และไปเป็นเพื่อนได้ เพราะเค้าเองก็ชอบไปเปิดหูเปิดตา อย่างนี้เข้ากันได้อยู่

3.เค้ามีความเป็นเพื่อนอยู่มากซะด้วย

คือ นอกจากรับรู้กันว่าเค้าเป็นแฟนคุณแล้ว เค้ายังให้ความรู้สึกเป็นเพื่อนแท้ที่พร้อมจะปกป้องคุณ,

พร้อมจะดีใจไปกับคุณเมื่อคุณได้รับการโปรโมตให้ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน ไม่ใช่ มองคุณอย่างอิจฉาตาร้อน

และพร้อมที่จะร้องไห้ไปกับ คุณเมื่อมีความทุกข์ แต่ๆ เค้าควรช่วยดึงคุณให้กลับมาเป็นปกติได้ด้วย

การเป็นเพื่อนยังรวมถึงมีจิตใจปรารถนาดี แนะนำกันไปในทางที่ดีและสูงขึ้น (มีศีลธรรมสูงนะ)

4.ไม่ปิดกั้นให้คุณมีเพื่อนคนอื่น

เพราะทุกคน มีเพื่อนของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าพอมีแฟนแล้วห้ามมีเพื่อนซะที่ไหนล่ะ เพียงแต่พอมีแฟนแล้ว คุณอาจคุยกับแฟน มากกว่าคุยกับเพื่อน

แต่ถ้าคุณกับเพื่อนๆมีนัดกัน ไปปาร์ตี้, ไปฉลองความสำเร็จ, ไปงานแต่งงานของเพื่อนในกลุ่ม ฯลฯ

เค้าก็ไม่ควรขัดขวางไม่ให้พวกคุณไปเจอกัน ซึ่งในทางกลับกัน คุณควรยินดีที่เค้าจะไปเจอกับเพื่อนๆของ

เค้าเช่นกัน แต่ผญ.น่ะพอเจอกันเสร็จก็กลับบ้านใครบ้าน มัน ทว่าผช.นี่ไม่แน่ พอเจอกันแล้วไปนาน บางคนติดเพื่อน มากก็มี ตรงนี้ต้องแก้ไขกันไป ถ้ารักจริงย่อมทำตัวให้ดีขึ้นได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.