ปมเหตุคู่รักระหองระแหง ระเเวงระวัง บางครั้งก็ไม่ได้มาจากความเจ้าชู้ หรือโ ท ษฝ่ายหญิงฝ่ายเดียวก็อาจดูไม่ยุติธรรม เพราะบางทีคุณนั่นแหละที่ทำให้เธอ (มีท่าที) เปลี่ยนไป …
1. ไม่มั่นใจในความสัมพันธ์
เธอไม่รู้สถานะความสัมพันธ์ หรือสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้เรียกว่าอะไร คนรักก็ยังไม่ใช่ คนรู้ใจก็ยังไม่เชิง อาจติดที่ฝ่ายชายเกิดปากแข็ง รักก็ไม่บอก
แสดงออกก็ไม่ชัด ไม่อยากให้ถ่ายรูปคู่บ้าง หรือขอเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ไปก่อน ยังไม่พร้อมจะเรียกว่าเป็นแฟน ฯลฯ
หรืออาจกลัวเป็นการตัดทางเลือกของตนที่ทำท่าว่ายังฮอตไม่เลิก ทำให้อีกฝ่ายดูไร้ตัวตน คิดน้อยอกน้อยใจ
คล้ายคบเธอไว้เผื่อเลือกหรือเปล่า ? และเมื่อถึงคราวเธอเดินจากไป แล้วหันไปควงชายอื่นที่ชัดเจนในความสัมพันธ์ ดันแอบคิดเสียดายในภายหลัง กระทั่งสงสัยว่าตนนั้นทำอะไรผิด
2. ฝ่ายชายไม่รับฟัง
ผญ.ตามตำรามักเป็นฝ่ายเจรจา ทว่าเมื่อเจอชายใดที่พูดมากกว่า ก็มักออกอาการหงุดหงิด แถมผช.บางคนปฏิบัติต่อคนรักคล้ายเป็นพ่อคนที่สอง
สั่งสอนอบรมเธอเหมือนลูก เมื่อมีความเห็นไม่ลงรอยกัน หรือยามมีปัญหา ก็มักคิดว่าตนเป็นฝ่ายถูก นอกจากไม่รับฟัง บางครั้งทำผิดก็ยังไม่ขอโ ท ษ
และเมื่อเธออยากมีส่วนร่วม ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ก็ออกลูกรำคาญเหมือนไปลดบทบาท “ผู้นำ” ของตนเองลง
และมักมีค่านิยมว่าผช.ต้องเก่งกว่า จึงปิดกั้นทั้งตัวเองและความเห็นอื่น ขนาดเป็นคนรักยังพูดจากันไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้เธอหันไปหาชายอื่นที่คอยรับฟังเธอมากกว่า
3. ไม่สนใจเธอเหมือนแต่ก่อน
มักเกิดจากการคบกัน มานาน แล้วเปรียบเทียบจุดเริ่มต้นกับปัจจุบัน ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว ชายผู้คอยเอาอกเอาใจได้กลายเป็นอดีต
หรือจากที่เธอคิดว่าทำอะไรก็เห็นดีเห็นงามไปหมด กลิ่นตดของเธอก็เดาว่าคงจะเป็นกลิ่นน้ำหอม แต่พอลองคบกันไปยาวๆ เธอก็รู้สึกได้ว่าสิ่งต่างๆ มันช่าง “ลดลง” อย่างเห็นได้ชัด
ถ้าอยู่ในระดับที่เธอรับได้ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะหลายคู่ย่อมเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ดี แต่กรณีที่ขยับตัวก็เหมือน มีความผิด
ถามนิดก็โดนด่า แถมไม่สนใจว่าเธอจะกินอะไรมาแล้วหรือยัง ไหนๆ เมื่อเธอทำอะไรก็ดูเหมือนจะ “ผิด” ไปหมด การคบคนใหม่ก็อาจเป็นเรื่อง “ถูกต้อง” สำหรับเธอก็ได้
4. อย่าเรียกว่านอกใจ เรียกว่าหาใหม่จะดีกว่า
พอคบกันแล้ว อาจพบจุดไม่ลงตัวหลายอย่าง ทั้งความคิด รสนิยม นิสัย ความบ้างาน บ้าพลัง ฯลฯ กระทั่งรู้สึกได้ว่าอีกฝ่าย “ยังไม่ใช่” จึงเกิดขึ้น
ถ้าเธอจะมีใครใหม่จริงๆ อาจเป็นเพราะเธอรู้สึกว่าคนใหม่ “ใช่กว่า” เห ม าะสมกับเธอมากกว่าก็ได้ อาจไม่ใช่เพราะเขาคนเก่าไม่ดี
แต่อาจเพราะความเข้ากันได้ที่มีอยู่มากกว่า หรือว่าวัดจากทฤษฎีความเข้าคู่ เธอจึงเลือกปฏิเสธเขาคนเก่าก็เท่านั้น เพราะอาจมีนิสัยบางอย่างที่เธอรับไม่ได้
5. เป็นภาระ มากกว่า เป็นผู้นำ
ไม่ใช่ว่าพึ่งพาไม่ได้ การงานก็มีทำ และทำได้ดีเป็นปกติ เพียงแต่ข้อเสียที่ฝ่ายชายมีนั้น อาจส่งผลรุนแรงกว่า อย่างเช่น ติดการพ นั น ติดเ ห ล้ า ฯลฯ
แรกๆ ก็คิดว่าโอกาสกลับตัวกลับใจยังมี แต่หลายทีที่เดือดร้อนจนต้องหยิบยืมเงินจากคนรัก ยิ่งพอหนักเข้ากระทั่งเธอรู้สึกได้ว่า
ยากที่เขาจะกลับตัวกลับใจ ถ้าไม่ให้ยืมสตางค์ก็ขู่จะทำร้ า ย ออกแนวมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ หรือกรณีดื่มจัดจน มักหาทางกลับบ้านไม่ค่อยเจอ
ใจเธอก็เป็นห่วงนั่นแหละ แต่ดูท่าว่าเขาจะยังอยู่ในวงจรนี้ไปอีกนาน เธอจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ หรือมีคนใหม่ไปพร้อมๆ
ก่อนที่จะบอกเลิกอย่างเป็นทางการ เพื่อนำมาเป็นข้ออ้างอย่างชัดเจนกันไป
6. หึงหวงมาก อีกฝ่ายคล้ายนักโ ท ษ
จะไปไหนก็ไม่ให้ไป แถมเป็นฝ่ายโทรถามโทรตามอยู่ตลอด คล้ายคอยใส่ใจ เพียงแต่มัน มากและบ่อยเกินไปเท่านั้น แถมตัวคนทำก็มักบอกว่าเป็นเพราะรัก
เพราะห่วง เพราะหวง จึงต้องควงแขนติดกันคล้ายใส่กุญแจมือไว้ตลอดเวลา สังสรรค์กับเพื่อนสาวก็คล้ายว่ามีความผิด
ยิ่งเพื่อนชายยิ่งไม่ต้องพูดถึง จึงไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น หรือจะพาคนที่บ้านอย่างพ่อแม่ไปกินข้าวบ้าง
เป็นอันต้องน้อยอกน้อยใจ หรืออยากจะเรียนต่อ ป.โท ก็ไม่ได้ กลัวจะไปเจอะเจอหนุ่มที่ถูกใจกว่า เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อึดอัดใจ กระทั่งอยากมีใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด
7. ถูกทำร้ า ย
ข้อหานี้ ต่อให้รักกันแค่ไหน ก็ไม่มีใครอยากอยู่ร่วมวง อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ คนอยู่ใกล้ย่อมรู้ว่ามันน่าหวาดผวาแค่ไหน ยามปกติก็ดีอยู่
แต่ยามร้ า ยก็เหมือนอยู่ใกล้ระเ บิ ด อาการลงไม้ลงมือจะมาเยือนตอนไหนก็ไม่รู้ ถ้าเป็นเรื่องเถียงฝ่ายชายมักสู้ไม่ได้ก็จริง
แต่ถ้าเรื่องพละกำลังก็ถือเป็นสิ่งได้เปรียบ ถ้าใช้ในทางดีก็ดีไป แต่หลายครั้งกลับนำมาใช้ทำร้ า ยคนรัก ชายใดที่ยังเป็นแบบนี้
ลองคิดทบทวนว่าถึงขั้นต้องทำรุนแรงกันขนาดนั้นเชียวหรือ เพราะกรณีนี้ฝ่ายหญิงอาจหายไปอย่างไร้ตัวตนจนไปมีคนใหม่ โดยไม่บอกพิกัด ด้วยอาจเกรงกลัวเรื่องความปลอดภัย
8. เธอช่างเจ้าชู้จริงๆ
เธออาจมียีนเจ้าชู้ หรือเป็นลูกคนสุดท้อง ในทำนองของผู้ช่างเลือก และมีคนคอยตามใจ ทำให้ความสัมพันธ์เหมือน มันไม่คืบหน้าไปไหน
เหมือนสนิทแต่ก็ยังไม่ลึก นึกไม่ออกว่าจะโทรหาใคร ก็อาจมาลงที่คุณก็ได้ จนคุณคิดไปไหนต่อไหน ทั้งๆ ที่เธอยังสับสนกับช้อยส์เลือกที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย
คล้ายเธอถือไพ่เหนือกว่า จากสภาพหน้าตา หรือว่ารูปร่างที่ดึงดูดใจชายหนุ่มให้เข้าหาเธอได้อยู่เสมอๆ
เธออาจยังอยากใช้โอกาสนั้นอยู่ อาจต้องการเพียงผู้อำนวยความสะดวก และไม่หวั่นแม้รถไฟจะชนกัน
9. หวั่นไหว เพราะความใกล้ชิด
เมื่อคนรักทำงานอยู่ต่างจังหวัด หรืออยู่ห่างกันคนละซีกโลก เธอจึงอาจถูกโฉลกกับคนใกล้ตัวก็ได้ หรือมองเห็นความเป็นไปได้มากกว่า
ระยะทางอาจไม่เป็นอุปสรรคก็จริง แต่อารมณ์หญิง เมื่อถูกกระตุ้นด้วยคำหวานจากปากชายอื่น หยิบยื่น มาให้อยู่อย่างซ้ำๆ ก็อาจทำให้เธอหวั่นไหวจนแพ้ภัยตัวเองได้
ยิ่งชายหนุ่มคนนั้นเห็นโอกาส และตั้งใจทำผลงานให้ออกมาดีกว่า เพราะรู้อยู่ว่าผญ.เป็นเ พศที่ต้องการความมั่นใจอยู่ตลอดเวลา
เหตุนี้คนใกล้ชิดจึงมีสิทธิ์พิชิตใจได้มากกว่าคนห่าง กรณีคนห่างยังวางใจว่าเธอคือของต า ย ทำนองว่ามีเราอยู่ทั้งคน มีหรือที่เธอจะสนคนอื่น และแล้วเธอก็สนคนอื่นขึ้น มาจริงๆ
10. เห็นฝ่ายชายนอกใจ ฝ่ายหญิงจึงทำบ้าง
ฝ่ายชายอาจเริ่มต้นด้วยการกดไลค์แฟนเพจดาราสาวที่ถูกใจ แต่หนักเข้าก็นั่งกดไลค์ให้หญิงสาวเยอะแยะไปหมด จนสาวรายนั้นรู้สึกได้ และเกิดสงสัย
จากนั้นก็เป็นเหตุให้แชตคุยกันยาวไป จนเกิดอาการหวั่นไหวด้วยกันทั้งคู่ หรือแอบนำความลับไปปรึกษา “ว่าที่มือที่สาม” อย่างเช่น เกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะทำอย่างไร
จนกระทั่งแฟนตัวจริงเกิดจับได้ จึงโพสต์รูปคู่กับชายในที่ทำงานบ้างเพื่อเป็นการเอาคืน มีทั้งโจทก์ มีทั้งจำเลยอยู่เต็มไปหมด นอกใจ หรือสร้างสถานการณ์ประ ชดรัก ก็ยากที่จะรู้