เมียใจสลาย พบสามีนอกใจไม่พอ ซ้ำเลี้ยงลูกบุญธรรมมา 7 ปี ที่แท้เป็นลูกกิ๊ก แถมพอจะเลิกและฟ้ องหย่า คนยังหาว่าเห็นแก่ตัวที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก
หญิงนิรนามเล่าเรื่องราวเพื่อระบายความในใจสุดอัดอั้นของตนเอง โดยเธอเล่าว่าตนเป็นคุณแม่ลูกห้าวัย 41 ปีต้องการมีครอบครัวใหญ่มาโดยตลอด หลังจากมีลูกสาว 3 คนและลูกชาย 1 คน ทำให้เธอมีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้อีก
เธอกับสามีวัย 48 ปีของเธอจึงคุยกันเรื่องการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม แต่ขณะนั้นสามีถูกส่งไปประจำการในต่างประเทศเป็นเวลาสั้น ๆ
ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจรอจนกว่าสามีจะกลับมา แต่จู่ ๆ สามีก็แนะนำให้พิจารณาการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมจากต่างประเทศและฝ่ายหญิงก็เห็นด้วย
สามีจัดการเอกส ๅ รการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเกือบทั้งหมด และในไม่ช้าทั้งคู่ก็ต้อนรับครอบครัวใหม่ของพวกเขา
คือ เด็กชายที่คนหนึ่ง ที่ยิ่งโตยิ่งหน้าตาเหมือนกับพี่น้องคนอื่น ๆ จนคนรอบข้างพูดแซวกัน มากมาย เป็นเหตุให้ฝ่ายภรรยาเกิดความสงสัย
อย่างไรก็ตาม ขณะย้ายเอกส ๅ รสำคัญไปยังตู้เซฟใหม่ จู่ ๆ ก็มีบางอย่างเกี่ยวกับเอกส ๅ รการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมที่ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ จนเกิดความสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก เธอจึงตัดสินใจตรวจดีเอ็นเอของลูกบุญธรรม ก่อนผลการวิจัยพบว่าสามีเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดลูกบุญธรรมอย่างแท้จริง
“เมื่อมองหน้าลูก ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเด็กคนนี้ เขาอายุ 7 ขวบแล้ว ญาติ ครอบครัว และเพื่อน ๆ มักจะแสดงความคิดเห็นว่าเขาดูคล้ายลูกคนอื่น ๆ มากเสียจนไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งฉันเคยพูดเล่น ๆ ว่าเขาก็หมือนจริง ๆ ส่วนสามีของฉันก็มักจะหัวเราะขำขันกับมุกตลกนี้”
“ฉันรักเด็กคนนี้จากก้นบึ้งของหัวใจในตัวฉัน แต่การรู้ว่าสามีนอกใจ ทำให้ฉันเจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหว สามีขอร้องฉันให้อภัยเขาพร้อมเล่าว่าผญ.คนนั้นไม่ต้องการลูก เขาจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม เพื่อรับเลี้ยงลูกชายของเขา”
“ฉันอยู่ในชีวิตของลูกบุณธรรมมาโดยตลอด เพราะฉันเป็นแม่ของเขา แต่ฉันทนไม่ได้ที่จะมองหน้าของสามีอีกต่อไป เพราะรู้ว่าเขาท ร ย ศและโกหก ซึ่งขณะนี้ฉันได้ฟ้ องหย่าแล้ว”
ต่อมาเธอกล่าวว่า แม้ต้องเผชิญกับหนทางที่ยากลำบากอย่างไรก็ไม่สำคัญ แต่สิ่งที่เธอหนักใจคือ ไม่รู้จะบอกลูก ๆ ของเธออย่างไร ครอบครัวของเธอแตกสลายชีวิตพังเพราะเรื่องนี้
แต่กลับมีบางคนเรียกเธอว่า “พวกเห็นแก่ตัว” ที่ไม่พยายามประณีประนอมเพื่อให้ครอบครัวของเธออยู่ร่วมกันได้
นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป หลายคนได้ให้ความมั่นใจกับเธออย่างรวดเร็วว่า เธอไม่ได้เห็นแก่ตัวเลยสักนิด เนื่องจากสามีของเธอได้ทำลายความไว้วางใจของเธอ
คนหนึ่งแนะนำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกธรรมดา นี่เป็นเหมือนการหลอпลวงความไว้ใจ ไม่มีทางรู้ว่านี่เป็นเพียงครั้งเดียวหรือไม่ มันอาจจะแย่ที่สุดด้วยซ้ำ”