หลายๆ ครั้งที่เรามีความรัก เราก็อยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนรัก เราเลยตั้งใจทุ่มเททุกสิ่งอย่าง สิ่งที่เราหวังคือให้เขารู้สึกดีกับเรา และให้เขามองเห็นหัวใจของเรา
แต่ดัน มาโป๊ะแตก ตรงที่ว่าทำไปมากมาย สิ่งที่เราได้กลับมา นอกจากการไม่ให้เกรียติกันแล้ว กลับกลายเป็นความเฉยชา ซ้ำร้ า ย ยังเอาความหวังดีของเราไปแบ่งปันคนอื่นด้วย
1.เอาอกเอาใจคุณเป็นพิเศษ
เพราะต้องทำงานด้วยกัน สำหรับข้อนี้เด่นชัดมากหากสายงานของคุณและเขาอยู่สายเดียวกัน หรือมีความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ยิ่งถ้าคุณเป็นคนเก่ง
มากความสามารถ จู่ๆ พ่อตัวดีมาเอาอกเอาใจคุณเป็นพิเศษ เห็นเขาที่ไหนต้องเห็นคุณด้วย จนคนอื่นๆ คิดว่าคุณเป็นแฟนกัน แต่พอคุณถามถึงความสัมพันธ์นี้
คนๆ นี้จะหลีกเลี่ยงในการตอบหรือเฉไฉไปเรื่องอื่น และเอาเรื่องงาน มาพูดกับคุณแทน หากเป็นแบบนี้ ขอให้คุณระวังตัวไว้บ้าง อย่าเพิ่งห ลงไปกับสิ่งที่เขาป้อนให้คุณ แท้จริงอาจเป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ในการทำงาน
2.ไปกินข้าวด้วยกัน หรือซื้อของด้วยกัน
แต่เวลาจ่าย เหมือนเขาจะทำนู่นทำนี่อยู่ ลุกไม่ค่อยขึ้น ช้า และเดินตามคุณทุกฝีก้าว กลายเป็นคุณเองที่พอพนักงานเก็บเงิน มาตามแล้ว ต้องรีบจ่ายออกไป ยังไม่ใช่แค่นั้น
เขาบอกคุณว่าเดี๋ยวออกให้ก่อนนะ คุณก็เลยโอเค เดี๋ยวรอบหน้าเขาจะเลี้ยงคุณเอง แต่แล้วพอกินรอบต่อไปก็เหมือนเดิม เหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น มาก่อน
หรือเมื่อเขาฝากคุณซื้อของ แต่ทำเป็นพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้เอาอกเอาใจคุณแทน จนคุณนั่นแหละที่ลืมเรื่องนี้ไป หากเป็นแบบนี้ทุกครั้ง
คุณแน่ใจแล้วหรือว่า “เรารักกัน” ลองสื่อสา รและตกลงกันใหม่ ไม่อย่างนั้น แทนที่คุณจะได้แฟน กลายเป็นว่าคุณได้ลูกมาหนึ่งคน
3.สัญญาอะไรไว้ ไม่เคยทำได้
เลื่อนไปเรื่อยๆ จนคุณต้องทำเอง ปกติคุณไม่ค่อยขอให้เขาช่วยอะไร แต่เมื่อถึงคราวคุณมีปัญหา เขากลับบ่ายเบี่ยงที่จะช่วย
มองว่าเรื่องของคุณเป็นเรื่องเล็กๆ จนคุณรอไม่ไหวแล้วต้องแก้ปัญหานั้นซะเอง เพราะอะไรน่ะหรือ
เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าคุณคงไม่ปล่อยให้เวลาเนิ่นนาน แต่พอเป็นปัญหาของเขาเท่านั้นแหละ ต้องมาก่อนเสมอ และคุณพร้อมที่จะกระโดดลงไปช่วยเขา
4.ให้คุณจ่ายอะไรบางอย่าง
เพิ่มขึ้น โดยมีข้ออ้างเพื่อให้เราสบายมากขึ้น ความเป็นห่วงเป็นใยของเขามักทำให้ผญ.ตๅยใจ บางอย่างก็ไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณ
แต่เป็นเรื่องที่บ้านเผลอๆ ให้เราช่วยเทคแคร์คนที่บ้านของเขาด้วย แล้วบอกเราว่าทำคะแนนเพิ่ม หรือข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับตัวเขา
แต่ทุกครั้งที่เขาต้องการ กลับพูดเหมือนกับว่าเป็นของๆ เรา คุณจะมีส่วนได้ในเรื่องนั้นๆ แล้วใช้ความรักมาอ้างทำให้คุณโอนอ่อน หากคุณผ่านตรงนี้ไปไม่ได้ คุณก็ต้องยอมให้เขาเอาเปรียบต่อไป
5.อยากคุยกับคุณ
แต่ไม่ยอมเสียค่าโทรศัพท์ เราเชื่อว่านอกจากการไลน์ การเฟสไทม์อะไรก็แล้วแต่ ยังเป็นเครื่องมือที่จะคุยกันจี๋จ๋าหวานจ๋อยแบบชัดๆ ไม่ได้ ระบบการโฟนอิน ยังถือว่าใช้ได้อยู่และบางคู่ก็ปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโทรค่ำเช้า ที่แปลกกว่านั้นคือ
ออกตัวให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายโทรทุกวัน และวันละนานๆ เป็นชั่วโมง น่าแปลกที่ฝ่ายที่ยอมก็ได้แต่บ่น แต่ไม่กล้าที่จะพูดตรงๆ ขอให้พูดกันอย่างชัดๆ ไปเลย เดี๋ยวนี้ก็มีโปรโมชั่นเยอะแยะ และหากเน็ตแรงๆ ก็สามารถ Line / Messenger ถึงกันชัดๆได้แล้วค่ะ
6.คบเหมือนแฟน
ออกตัวเหมือนเพื่อน เบื้องหลังท้องชนกัน สิ่งที่เขาหลอпใช้คือประโยคหลัง ทำกับคุณเหมือนแฟน แต่พอคนอื่นถามกลับทำเหมือนกับคุณเป็นคนทั่วๆ ไป และพอลับหลังไป
กับบอกกับคุณว่ารักนักหนาและจบลงบนเตียง อีแบบนี้เรียกว่า เขาเอาเปรียบคุณหลอпใช้คุณเพื่อความใคร่ และคุณก็ยอมทุกครั้งไป นี่หรือคือ รักแท้ ขอให้คุณคิดให้ดีๆ ถ้านี่คือคำตอบ ชัดเจน มากๆ ค่ะ
7.เอาความรักมาเป็นเครื่องต่อรอง
สร้างคอนเนคชั่น อาจเป็นเรื่องงานหรือแสวงหาโอกาสอื่นๆ ต่อไป คนแบบนี้ก็มี เราจะเห็นได้สำหรับคนที่ทำธุรกิจ บางทีเห็นว่าคุณมีเพื่อนเยอะแยะ ในหลากหลายสายอาชีพ
จึงขอคำปรึกษาแต่ผ่านคุณ ตอนขอให้คุณช่วยก็พูดกับคุณดีมาก เอาอกเอาใจดี แต่พอได้คอนเนคชั่นแล้ว ไหงไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา
และเขาก็ประสบความสำเร็จไป แถมพูดกับคุณว่า ถ้าไม่ได้ คนนั้น คนนี้ช่วย เขาก็มาไม่ได้ถึงตรงนั้น ถึงตรงนี้ให้คุณลองกลับไปเช็คว่ามีชื่อคุณอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่สัญญาณนี้ก็อันตรายสำหรับคุณแล้วค่ะ
8.เวลาที่ไม่มีใครมาหาเรา
แต่เวลามีใครเหมือนเราไม่มีตัวตน อันนี้เป็นการหลอпใช้ทางความรู้สึก เวลาไม่มีใครก็เห็นเราสำคัญ แต่เวลามีใครกลับกลายเป็นเราไร้ตัวตน อย่างนี้ลองไปฟังเพลง
รักแท้หรือแค่เหงาของโบสุนิตาได้เลยค่ะ คุณว่าสุดท้ายแล้ว จะลงเอยแบบแฮปปี้เอนดิ้งหรือไม่ บอกเลย ถ้าเขาเลือกคุณ เขาคงเลือกคุณแต่แรกไม่ปล่อยเวลามาเนิ่นนาน เพื่อให้เขามีเวลาไปเทคแคร์อีกคน
9.ยอมอดมื้อกิน มื้อ
เพื่อให้เขาสร้างอนาคตกับคนที่ไม่ใช่เรา แถมหนี้มาด้วย ตอนที่รักกัน อะไรๆ ก็ดีไปหมด จึงเป็นชนวนให้ตกปากรับคำอะไรง่ายๆ อย่างการสร้างอนาคตด้วยกัน
แต่พอสร้างไปสร้างมา กลายเป็นว่าฝ่ายชายหนีไปแต่งงานซะงั้น พอกลับมามองสินทรัพย์ก็ไม่ใช่ชื่อตัวเองอีก กลายเป็นว่าสิ่งที่สร้างมากับมือ
กลายเป็นให้อีกฝ่ายเอาไปเป็นสินสอดคนอื่น ที่สำคัญชื่อคนค้ำกลายเป็นเรา เกิดไม่ผ่อนต่อก็แถมหนี้มาให้เสียด้วย
10.คบคุณเพื่อชีวิตดีขึ้น
แล้วก็รูด ปรี๊ด รูด ปรี๊ด… กรณีนี้หากสังคมคุณและเขาต่างกันรวมทั้งไลฟ์สไตล์ คุณคงต้องกระเป๋าหนักหน่อยละ แต่ลับหลังคุณกลับเอาเงินไปให้คนอื่น อย่างนี้เขาเห็นคุณเป็นตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่แล้วล่ะค่ะ
