ความรักคือการมอบความห่วงใย ความปรารถนาดีให้แก่กันละกันค่ะ พื้นฐานของความรักนั้นเกิดขึ้นกับคนเพียงสองคนเท่านั้นค่ะ
บางคนอาจจะคบกันไปตลอดรอดฝั่งไปจนถึงวันที่แก่เฒ่าไปพร้อมกัน แต่บางคนก็ไม่ไม่รอดค่ะเพราะมีปัญหามากมายที่ไม่เข้าใจกัน
และอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้มากที่สุดที่ทำให้คนเลิกกันแบบไม่มีเยื่อใยกันเลยก็คือปัญหาเรื่องการมีมือที่สามนั่นเองค่ะ
หลายคนเกลี ยดสถานะที่แฟนเราหรือสามีของเรามีคนอื่นเป็นที่สุด เพราะมันทำใจได้ลำบากมากค่ะแล้วสิ่งที่หลายคนเจ็บปวดที่สุดก็คือการโกหกทั้ง ๆ ที่เรารู้ความจริงอยู่แล้วค่ะและแน่นอนค่ะบางครั้งกิ๊กของแฟนเรามักจะมาในรูปแบบพี่น้อง
เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิทหรือคนที่เจอกันผ่านโซเชียลค่ะ หากใครที่กำลังมีความสัมพันธ์แบบมือที่สามอยู่แล้วจับไม่ได้คาหนังคาเขาซักที
ตรวจสอบพฤติกรรมของเขา
1. ตรวจสอบว่าเขาปกป้องโทรศัพท์ของเขามากเกินไปหรือไม่ ?
หากแฟนของคุณกำลังโกหกหรือมีความลับ เขาจะปกป้องโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของตัวเองมากจนเกินไป เขาเริ่มอารมณ์เสียหรือไม่ถ้าคุณสัมผัสโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเขา?
นั่นเป็นสัญญาณแรกเลยค่ะ เพราะโทรศัพท์ของเขาอาจเป็นสิ่งที่เขาใช้สื่อสา รกับคนอื่นนั่นเองและเขาก็คงไม่อยากให้เรารู้จึงต้องการให้เราอยู่ห่างจากสิ่งของสุดหวงของเขามากที่สุด
หากวันนึงมีสายโทรศัพท์หรือข้อความเข้ามา เขาจะวิ่งไปรับโทรศัพท์ก่อนที่คุณจะเห็นว่าใครโทรมาหรือไม่ ? หรือบางครั้งเขาอาจจะเมมเบอร์ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานและหาทางออกไปคุยหรือดูข้อความข้างนอก
หากคุณถามว่า “ใครโทรมาหรือส่งข้อความมา” เขาอาจพูดว่า “ไม่มีใคร” หรือ “ไม่มีอะไรหรอกแค่เรื่องงาน” อีกข้อนึงที่สามารถสังเกตได้คือ เขาลบข้อความหรือเคลียร์บางอย่างก่อนที่จะอนุญาตให้คุณใช้โทรศัพท์ของเขาหรือไม่?
2. เอาใจใส่กับกิจวัตรประจำวันของเขา
หากแฟนของคุณกำลังโกหกหรือปิดบังอะไรไว้ เขาจะต้องให้เวลากับคนอื่นเพิ่มเติม ดังนั้นตารางงานและกิจวัตรประจำวันของเขานั้นจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนค่ะ
หากเขาเริ่มออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยขึ้น เมื่อไปหาเพื่อนไม่พาเราไปด้วย กลับบ้านไม่ตรงเวลามากขึ้นเขาอาจจะกำลังนอกใจเราและกำลังลดความสำคัญของเราลงค่ะ
3. สังเกตว่าเขาเป็นคนที่มีความลับมากขึ้นหรือไม่ ?
แฟนของคุณรับโทรศัพท์ในห้องอื่นที่ไม่มีคุณหรือไม่? หากแฟนของคุณกำลังมีคนอื่น เขาจะเริ่มทำตัวห่างจากคุณ
เขาจะเริ่มออกไปเที่ยวกับคนที่คุณไม่รู้จักและเริ่มอ้ำอึ้งเมื่อคุณถามเยอะและเขาก็จะหาข้อโต้แย้งมาทะ เลาะกับเรา โดยใช้คำพูดที่ว่าทำไมเราไม่ไว้ใจเขาเลย เขาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
4. สังเกตว่าเขารักคุณน้อยลงหรือไม่ ?
หากแฟนของคุณกำลังมีคนอื่น เขาอาจจะรักคุณน้อยลง เขาไม่ต้องการที่จะจับมือ กอด จูบหรือมีเซ็пส์กับคุณอีกต่อไป เขาจะไม่สนใจลักษณะทางกายภาพของความสัมพันธ์ของคุณอีกต่อไป
แต่ในบางครั้งวิธีนี้อาจจะไม่เห มาะกับคู่บางคู่ เพราะอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากความเครียดหรือปัญหาสุขภาพ คำนึงถึงสัญญาณอื่น ๆ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าเขารักเราน้อยลงเพราะเขากำลังนอกใจ
5. มองหาพฤติกรรมที่ผิดปกติ
แฟนของคุณอาจเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาเพราะเขารู้สึกผิดเกี่ยวกับการโกหกหรือมีคนอื่น พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นบวกหรือลบ การเปลี่ยนแปลงทั่วไป ได้แก่
ซื้อของขวัญให้เราโดยไม่มีเหตุผล
ช่วยเหลือและเอาใจใส่เรามากขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน
อารมณ์แปรปรวน มากขึ้น
กลิ่นน้ำหอมของเขาเปลี่ยนหรือเพี้ยนไปจากเดิมหรืออาจจะมีเช่นกลิ่นน้ำหอมหรือโคโลญจน์ของบุคคลอื่นติดมาด้วย
ให้ความสนใจกับรูปร่างหน้าตาของเขาเป็นพิเศษ เปลี่ยนการแต่งตัวใหม่ให้ดูดีขึ้น เช่น ซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบซื้อ ตัดผมทรงใหม่ที่ไม่เคยตัดมาก่อน ไปโรงยิมเพื่ออกกำลังกายให้หุ่นเฟิร์มทั้ง ๆ ที่เราเคยชวนแต่ไม่เคยไป
โกหกทุกเรื่องเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เขาพบเจอทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่
เรียกชื่อเราผิด หรือคำเรียกชื่สำหรับคน 2 คนผิดไปจากเดิม ข้อนี้สำคัญเลยค่ะหากเขาเผลอเรียกชื่อเราผิดหรือละเมอเรียกชื่อคนอื่น เขากำลังมีคนอื่นอย่างแน่นอน
ประเมินความสัมพันธ์ของคุณ
1. ประเมินระยะเวลาที่คุณอยู่ด้วยกัน
แฟนของคุณใช้เวลาว่างกับคุณเท่าเดิมหรือไม่ ? หรือเขายุ่งเกินไปจนไม่มีเวลาให้คุณเหมือนเดิมหรือเปล่า? คุณรู้สึกเหมือนคุณและแฟนของคุณใช้ชีวิตแยกกันหรือไม่?
หรือคุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเขาและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง ? เพราะปกติแล้วคนเรารักกันแม้ว่าแฟนของคุณจะมีตารางงานที่ยุ่งมาก เขาก็ควรหาเวลามาพบคุณและคุยกับคุณบ้าง
2. กำหนดคุณภาพของการโต้ตอบเวลาคุยกัน
ไม่เพียงแต่คุณควรประเมินระยะเวลาที่คุณใช้กับแฟนของคุณ คุณภาพของการพูดนั้นก็สำคัญเช่นกัน คุณสองคนสนุกไหมเวลาได้คุยกันหรือคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ในการโต้เถียงหรือไม่?
คุณรู้สึกห่างไกลขณะที่ตัวอยู่ใกล้กันหรือไม่? หากการพูดคุยโต้ตอบของคุณไร้ความสนุกสนานและมีการโต้แย้งอย่างต่อเนื่องเขาอาจจะอยากใช้เวลากับคนอื่น มากกว่าเราหรือเขาอาจจะเครียดกับปัญหาอื่น ๆ
3. ประเมินความสนใจของแฟนต่อคุณ
แม้ว่าคุณจะใช้เวลาร่วมกัน แฟนของคุณอาจดูไม่สนใจคุณและความสัมพันธ์ของของคุณ ตอนนี้คุณกำลังรู้สึกว่าเขาไม่สนใจคุณจริง ๆ ไหม? เขาไม่ไยดีและขาดการติดต่อคุณเลย
ตัวอย่างเช่นคุณต้องโทรหาหรือส่งข้อความถึงเขาก่อนเสมอหรือไม่? คุณต้องวางแผนและคิดถึงไอเดียที่ออกเดทอยู่เสมอหรือไม่?
เขาเริ่มเงียบหรือไม่มีเรื่องที่จะพูดเมื่อคุณอยู่ด้วยกันสองคนหรือไม่? หากเขาเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ก็ห มายความว่าเขากำลังเ บื่ อหน่ายกับเราหรือมีความรักให้เราน้อยลง
มองหาหลักฐาน มัดตัวเขา
1. ตรวจสอบสื่อสังคมของเขา
คุณควรตรวจสอบสื่อต่าง ๆ ผ่านหน้าโซเชียลมีเดียของแฟนคุณ เพื่อดูว่าเขากำลังพูดคุยกับใครก็ตามที่คุณไม่รู้จัก ดูว่าเขาชอบรูปไหนหรือกดไลก์ใครมากเป็นพิเศษหรือไม่ ?
นอกจากนี้ให้ค้นหาหน้าโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ที่เขาอาจจะมีแต่คุณอาจไม่รู้เพื่อดูว่าเขากำลังแอบมีใครหรือไม่ ?
นอกจากนี้ให้สังเกตว่าเขาใช้เวลากับสื่อโซเชียลมากกว่าปกติ การใช้เวลามากขึ้นในโซเชียลมีเดียอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุของการนอกใจ
หากคุณมีรหัสผ่านโซเชียลของเขา ให้ไปยังบัญชีของเขาเพื่อดูว่าเขากำลังส่งข้อความหาใครและใครที่เขาคุยด้วยมากที่สุด
แต่แน่นอนค่ะอย่าให้เขาจับได้เพราะนี่ถือว่าเป็นการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเขาอย่างจริงจัง หากเขาจับได้เขาจะต้องอารมณ์เสียกับคุณมากแน่ ๆ
คุณต้องมีความมั่นใจในความสงสัยของคุณมากพอก่อนที่จะทำเช่นนี้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเลิกกันอย่างถาวร
2. คุยกับเพื่อนของเขา
หากแฟนของคุณกำลังโกหกเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ให้พูดคุยกับเพื่อนของเขาเพื่อดูว่าพวกเขาพูดในสิ่งเดียวกันหรือไม่?
โปรดรู้ไว้ว่าเพื่อนกัน มักจะปกปิดความลับและอยู่ข้างกันและหมู่เพื่อนอาจจะไม่บอกคุณว่าเขาทำอะไรอยู่ ดังนั้นคุณอาจจะต้องคิดคำถามที่ล้ำลึกเป็นพิเศษเพื่อให้เพื่อนของเขาคายความลับมาทีละน้อย
3. จับโกหก
คุณสามารถโทรถามเขาว่าเขาอยู่ที่ไหน? ทำอะไรอยู่ ? ไม่กี่วันต่อมาก็โทรถามเขาอีกครั้ง หากเขาโกหกเขาอาจพบว่ายากที่จะจดจำสิ่งที่เขาพูดในครั้งแรก เปรียบเทียบสิ่งที่เขาพูดทุกครั้งเพื่อดูว่าเรื่องราวตรงกันหรือไม่
หากเขาเริ่มรำคาญใจที่คุณถามคำถามเขาอยู่เรื่อย ๆ เขาอาจกำลังโกหก หากเขากำลังพูดความจริงคำถามของคุณไม่ควรกวนใจเขาเลย หากเขาใช้โซเชียลมีเดียมากให้ตรวจสอบโพสต์และกิจกรรมของเขาในช่วงเวลาที่คุณสงสัย และมองหาสิ่งผิดปกติให้เจอ
4. ตรวจสอบผ่านโทรศัพท์ของเขา
ให้รอจนกว่าแฟนของคุณกำลังนอนหลับหรืออยู่ในห้องน้ำและคว้าโทรศัพท์ของเขา นี่จะเป็นเรื่องยากถ้าเขาเอามือถือติดตัวไปทุกที่ที่เขาไป
หากคุณไม่ทราบรหัสผ่านของเขาพยายามกอดเขาและมองข้ามไหล่ของเขาเมื่อเขาใส่รหัสสิ่งนี้อาจช่วยให้คุณทราบว่ารหัสผ่านของเขาคืออะไร
บางครั้งคุณสามารถลองยืนใกล้เขาในขณะที่เขาใช้โทรศัพท์และดูว่าคุณสังเกตเห็นอะไรหรือไม่ หรือเมื่อคุณสามารถเข้าถึงโทรศัพท์ของเขาให้ดูบันทึกการโทรและข้อความของเขาโดยเร็วที่สุด
อย่าลืมค้นหาห มายเลขที่ไม่ได้บันทึก แน่นอนว่าการใช้โทรศัพท์ของเขาเป็นการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเขาเช่นกัน
เขาจะอารมณ์เสียมากถ้าเขารู้ว่าคุณทำไปแล้วและจะไม่เชื่อใจคุณอีกต่อไป เราขอแนะนำให้ใช้สิ่งนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย