สามีคบชู้ ทำใจอย่างไร ไม่ให้โกรธ

ถาม : สามีคบชู้ ดิฉันจับได้จึงขอเลิก ทำให้ทั้งคู่อยู่กินกันเปิดเผยสะดวกใจ ดิฉันกลับคิดมากว่ายอมง่ายไปหรือเปล่า

ทำไมเราต้องเป็นทุกข์อยู่ฝ่ายเดียว ดิฉันควรปรับใจอย่างไรไม่ให้โกรธเกลี ยดทั้งสองคนนั้นคะ

พระมหา ดร.ธนาธิป มหาธมฺมรกฺขิโตตอบปัญหานี้ไว้ว่า

ตอบ : คำถามที่ว่า สามีคบชู้ ตนจึงทำใจไม่ได้และขอเลิก ดูเหมือนว่า ทั้งคู่มีความชอบธรรมในการใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเปิดเผยโดยไม่ต้องสำนึกรับผิดชอบต่อศีลธรรม

ความจริงต่อให้เขาลืมกางตำราศีลธรรมไว้ก็จริง แต่เขาทั้งคู่ก็ถือว่า มีสนิมเกาะในใจแล้ว

และจะเป็นตราบาปติดตัวตลอดไป แม้จะดูเหมือนว่ามีความสุข แต่เมื่อใดที่เขานึกถึงอดีต มันก็จะรบกวนความรู้สึกเขาเช่นกัน และอาจตลอดไปอีกด้วย

ดังนั้น ไม่ใช่เราฝ่ายเดียวหรอกที่เป็นทุกข์ ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะสุขสมบูรณ์เสียเมื่อไหร่ ดีเสียอีกที่เรายอมเจ็บปวดในเวลานี้

แต่วันข้างเราจะภูมิใจว่า ดีแล้วที่ไม่ปล่อยให้คนอื่น มาทำลายความรู้สึกของหัวใจของเราไปมากกว่านี้

คำถามที่ว่า เรายอมง่ายไปไหม ความจริงการที่เรายอมเช่นนั้น ใช่ว่าง่ายไปเพราะจิตใจและความรู้สึกของเราคงทนไม่ไหว

และทรมานจนไม่อยากอดทนแล้ว จึงได้ตัดสินใจไปเช่นนั้น หากไม่หนักหนาสาหัสจริง เชื่อว่าคงไม่ตัดสินใจเลิกแน่นอน

เพราะกว่าที่คนหนึ่งคนจะยอมถอนความรู้สึก การคาดหวัง และความรักที่มีในใจออกจากใครสักคน ไม่ใช่เรื่องง่าย

ต้องใช้เวลาตรึกตรองไม่น้อย คิดพิจารณามาก็มาก ดังนั้น การขอเลิกจึงเป็นการทำตามความต้องการของความรู้สึกที่บอบช้ำจนทนไม่ไหวของเรา

ส่วนการปรับใจเพื่อไม่ให้โกรธและเกลี ยดนั้น ความจริงต้องเข้าใจก่อนว่า ความรู้สึกของผู้ถูกทำและผู้ทำ

ย่อมให้ผลทางความเจ็บปวดที่แตกต่างกัน ห มายความว่า ความรู้สึกเจ็บปวดของคน มีไม่เท่ากัน

เพราะความคาดหวังและความเข้มแข็งของใจมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันนั่นเอง ในเรื่องเดียวกัน อีกคนเจ็บปวดแสนทรมาน

และอีกคนกลับไม่มีความรู้สึกเลยก็มี จะโทษอีกฝ่ายก็ไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถบังคับให้อีกฝ่ายรู้สึกได้เหมือนเรา อย่างมากก็แค่ใกล้เคียงกัน ก็เท่านั้น

แม้แต่ความรู้สึกของคำว่า รัก ที่คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งเดียวกันในความรู้สึกของคนสอง แต่ความจริงเป็นได้แค่การปรุงแต่งเอาเองของผู้เป็นเจ้าของความรู้สึกนั้นต่างหาก

ดังนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า เพราะเราได้ตั้งความคาดหวังและฝากความรู้สึกของตัวเองไว้ที่เขามากจนเกินไป

พอเขาสลัดความหวังของเราทิ้งไป ผลย่อมมาตกที่เรา เขาไม่รู้สึก เพราะเป็นเพียงผู้รับฝากความหวังของเรา

แต่เราคือเจ้าของความคาดหวังนั้น เมื่อเข้าใจดีอย่างนี้แล้ว การปรับใจหรือความรู้สึกไม่ให้เกลี ยดชังคู่กรณี ก็ไม่ยาก กล่าวคือ

ควรถอนความยึดติดในบุคคลออกไป รวมถึงต้องสลัดความคาดหวังจากตัวเขาให้หมดไป ให้คิดเสียว่า

เป็นผลกรรมเก่าของเราที่อาจเคยทำแบบนี้ไว้กับเขามาก่อน ควรตั้งสติ และถอนตัวออกมาจากเหตุการณ์

แล้วตั้งใจมองเหตุการณ์ที่เป็นไปด้วยเมตตา ให้ถือว่า เรากำลังชดใช้หนี้กรรมเก่า จงอดทน เพราะกาลเวลาจะช่วยเยียยาได้เอง

ความทุกข์แบบนี้ ไม่คงที่ ยิ่งนานเท่าไร ความทุกข์ก็จะจืดจางลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา เพียงแต่เราต้องอดทนให้มาก

ให้ใจเย็นและมีสติเข้าไว้ จงท่องและระลึกไว้ว่า เราสละเขาทิ้งไปแล้ว เท่านี้ เราก็จะไม่เกลี ยดชังพวกเขาแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.